Home | ซีรีส์การลงทุน | บทเรียนการลงทุนจากชีวิตของ Stephen Hawking

บทเรียนการลงทุนจากชีวิตของ Stephen Hawking

Stephen Hawking นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ในโลกยุคสมัยใหม่ที่เกิดเมื่อ 300 ปีหลังจากกาลิเลโอ นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่เสียชีวิต ชื่อของ Stephen Hawking เป็นที่รู้จักกันดีในงานวิจัยเรื่องความลึกลับของจักรวาล อย่าง The Theory of Everything ในปี 2007 หนังสือที่เขาอธิบายอย่างแจ่มแจ้งถึงความซับซ้อนของจักรวาลให้กลายเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย 

สมมติฐานเบื้องหลังการมีอยู่ของ Mother Earth และ Solar System ทฤษฎีเบื้องหลังการขยายตัวแบบ Exponential ที่ไม่มีวันสิ้นสุดของจักรวาล และ Big Bang ตลอดจนความจริงเบื้องหลังหลุมดำที่ไม่ดำ และอะไรต่อมิอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่ถูกไขโดยชายที่ชื่อ Stephen Hawking  แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตของเขาน่าทึ่ง เพราะเขาได้ทำการวิจัยในขณะที่ประสบปัญหาอยู่กับโรคเซลล์ประสาทสั่งการ (motor Neuron Disease) เป็นเวลากว่า 50 ปี โรคที่ฆ่าเซลล์ประสาทที่ได้ทำการควบคุมสมองของเขา และทำให้เป็นอัมพาตในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความผิดปกติทำให้เขาสูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อ และทำให้เขาต้องนั่งรถเข็นมาตั้งแต่ปี 1963 แต่นั่นก็ไม่อาจทำให้เขาค้นคว้า ค้นหา คำตอบของจักรวาลได้

จนเราสามารถนำบทเรียนจากชีวิตของเขามาดัดแปลงใช้ในโลกของการลงทุนได้เช่นกัน ในเว็บไซต์ของ Moneycontrol มีการอธิบายหลักคิดของเขากับโลกของการลงทุน โดยแบ่งออกเป็น 4 ข้อดังนี้

1.ใช้เวลาให้คุ้มค่า 

เขาพบว่าตอนอายุ 21 ปี เส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อของเขากำลังเสื่อม หมอบอกว่า เขาจะอยู่ได้ไม่ถึง 3 ปี และจะไม่มีโอกาสอยู่ฉลองวันเกิดครบรอบ 24 ปี และจะไม่มีโอกาสรับปริญญาดุษฎีบัณฑิต ดังนั้นเขาจะมีเวลาแค่ 2 ปีกว่า ในการทำงานวิจัยเกี่ยวกับหลุมดำ และจักรวาล เขาจึงหมกมุ่นอยู่กับการศึกษาเรื่องนี้ และค้นพบความลับของจักรวาลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในช่วงเวลาที่เหลือ เขาใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและล้ำค่าอย่างหาที่สุดไม่ได้

ดังนั้นบทเรียนข้อแรกที่เราได้ คือ การผสมผสานเรื่องตัวแปร อย่าง เวลา การมีเวลาจำกัดจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่มหัศจรรย์เสมอ เขาใช้ทุกวินาทีอย่างมีค่า บทเรียนจากเรื่องนี้ คือการใช้ประโยชน์จากเวลาที่เราเหลืออยู่ เป็นทรัพย์สินที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดโดยธรรมชาติ ดังนั้นเราควรเริ่มลงทุนอย่างเป็นระบบ จงมีวินัยอย่างสม่ำเสมอ คุณจะได้รับผลประโยชน์อย่างช้า ๆ แต่จะได้อย่างแน่นอน ตัวอย่างเช่น Anne Scheiber เริ่มต้นการเดินทางเมื่ออายุ 51 ปี แต่เธอก็สร้างกำไรหาศาลถึง 22 ล้านดอลลาร์ด้วยเงินบำนาญประจำปีเพียง 4,000 ดอลลาร์ เธอยังคงลงทุนแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ช่วงเวลาที่ตลาดขาลง แต่เธอยังคงลงทุนสม่ำเสมอแบบนั้นทุก ๆ ปี จนคว้ากำไรมหาศาล และใช้เวลาที่เหลือไปกับสิ่งที่อยากทำ

2.ให้มันง่าย 

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงก็คือความเรียบง่ายของเขาในการอธิบายความซับซ้อนของโลกและจักรวาลของเรา  ไม่มีทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ มีเพียงแนวคิดที่สามารถเข้าใจได้โดยการอ่านหนังสือของเขาที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษธรรมดา เขาแสดงให้เห็นว่า ณ จุดหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลของเรามีศูนย์กลางอยู่ที่จุดเดียว ซึ่งแตกสลายหลังจากเหตุการณ์ Big Bang และในที่สุดก็ก่อตัวเป็นดาว กาแล็กซี ดาวเคราะห์ 

ในทำนองเดียวกันนั้นรากฐานของการลงทุนที่ประสบความสำเร็จนั้นอยู่ที่การเข้าหามันด้วยความเรียบง่าย ทำให้มันเรียบง่าย ด้วยการลงทุนในธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์ที่เราชื่นชอบที่ใช้ในชีวิตประจำวันของเรา ทำให้มันง่ายโดยการเลือกหุ้นที่มีรูปแบบธุรกิจที่เข้าใจง่ายมาก มีพื้นฐานที่ดี อย่าง Charlie Munger หุ้นส่วนธุรกิจของ Warren Buffett กล่าวว่า “นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่คัดลอกแบบจำลองของเรา เพราะแบบจำลองของเราง่ายเกินไป พวกเขาเชื่อว่าคุณไม่สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ถ้ามันง่ายเกินไป”

3. เรียนต่อ 

แม้จะมีช่วงเวลาจำกัด แต่ Hawking ไม่เคยหยุดเรียนรู้ และสำรวจแนวคิดใหม่ ๆ ที่จะสามารถช่วยเขาได้ในงานวิจัย แม้ในขณะที่รับประทานอาหารเย็นกับครอบครัว เขาเคยนิ่งเงียบ และหมกมุ่นอยู่กับการเรียนรู้จากงานที่ทำโดยนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ

เช่นเดียวกับเราในฐานะนักลงทุน อ่านเยอะ ๆ เรียนรู้ให้มาก หัดอ่านข่าว อ่านนิตยสารธุรกิจ หนังสือ บทความ และเรียนรู้จากนักลงทุนใกล้ตัว แล้วค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่แน่นอนที่สุดที่จะไม่เปลี่ยนแปลงในอีก 10 ปีข้างหน้า ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถสร้างแนวคิดการลงทุนในรูปแบบของตัวเองได้ รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาที่ทำงานเบื้องหลังการทำเงิน 

4.อย่าท้อแท้กับเหตุการณ์ที่เลวร้าย

อย่าจมอยู่กับสถานการณ์ที่ไม่เลวร้ายในชีวิต เพราะเมื่อตอนที่เขาสูญเสียกำลังในการควบคุมกล้ามเนื้อตั้งแต่อายุยังน้อย เขาต้องนั่งเก้าอี้รถเข็น และเมื่อเขาสูญเสียความสามารถในการพูด เขาก็ใช้เครื่องสังเคราะห์เสียง เป็นเสียงพูดเทียม เพื่อสื่อสารความคิดของเขาให้โลกรู้ ฉะนั้นแม้อนาคตอาจจะดูมืดมน แต่เขาก็มองมันด้วยความรู้สึกใหม่ ๆ เขาไม่เคยปล่อยให้ความทุกข์ยากในชีวิตขัดขวางงานวิจัยของเขา

ส่วนในเส้นทางการลงทุน เราอาจประสบปัญหาหลายอย่างที่กลายเป็นผลเสียสำหรับเรา การล่มสลายของตลาด  หรือตลาดอยู่ในช่วงขาลง Sideway เทรดยาก ติดดอย หรือการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าปล่อยให้สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อเส้นทางการสร้างความมั่งคั่งของคุณ จงมองภาพกว้าง ๆ เรียนรู้จากความผิดพลาด และสัญญาว่าจะไม่ทำซ้ำ อย่ารีบขายเมื่อหุ้นตก ค้นหาเหตุผลที่ถูกต้อง เพื่อหาสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะพื้นฐานหรือไม่ หรือเป็นเพราะปัญหาการกำกับดูแลกิจการบางอย่าง ถ้าคุณหาคำตอบแล้วพบว่าไม่มีสิ่งเหล่านี้ นั่งให้แน่น ไม่ต้องทำอะไร. อย่าท้อแท้เมื่อเห็นพอร์ตของคุณเป็นสีแดง  ดั่งที่คนบอกไว้ว่า นั่งให้เย็น แล้วกำไรจะมาเอง

และนี่คือบทเรียนที่ได้จากชายที่ชื่อ Stephen Hawking