สรุปเรื่องราว Forex 3D หายนะจากการความฝัน
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่สิบปี หรือกี่คดีความที่มีการหลอกให้ลงทุนในลักษณะ Forex 3D ก็ยังคงมีคนหลงเชื่ออยู่เสมอ ฉะนั้น Money Art จะมาขอทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ Forex 3D กันครับ
Forex คือ?
Forex หรือ Foreign Exchange คือ ตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา(สกุลเงิน) ทั่วโลกตั้งแต่ดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์สเตอร์ลิง เยน ยูโร โดยตลาดนี้ถือเป็นตลาดที่มีมูลค่าซื้อขายมากที่สุดในโลก และมีความผันผวนมากที่สุดเช่นกัน ซึ่งในอดีตเราจะต้องซื้อผ่านธนาคาร หรือสถาบันการเงิน แต่ปัจจุบันเราสามารถซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ได้ โดยโบรกเกอร์จะทำหน้าที่เป็นคนกลางส่งต่อออเดอร์ที่คุณซื้อหรือขายไปยังตลาด และโบรกเกอร์ก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นจากจุดนี้ที่เราเรียกกันว่าค่า Swap แต่ทว่าในประเทศไทยการซื้อขาย Forex ยังไม่ถูกรับรองโดย กลต. ดังนั้นทุกการซื้อขายจึงอาจจะมีความเสี่ยงเสมอ สิ่งที่เทรดเดอร์ทำเวลาเลือกโบรกเกอร์ จึงมักจะดูจากใบอนุญาตสากล
ซึ่งด้วยความที่ประเทศไทยยังไม่เป็นที่รองรับจึงทำให้เกิดช่องทางการกระทำผิดขึ้น โดยนำชื่อการลงทุน Forex มาอ้าง อย่าง Forex 3D ด้วยการบอกว่าให้นักลงทุนลงเงินมาที่เขาแล้วเขาจะเทรดให้ พร้อมกับเงินปันผลเยอะ ๆ ที่แม้แต่ธนาคารยังไม่กล้าคิดจะทำ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ทุกอย่างมันคือกระบวนการตกเหยื่อให้หลงกลหลงลงทุนไม่ต่างจากแชร์ลูกโซ่นั่นเองครับ
โดยจุดเริ่มต้นของ Forex 3D มาจากชายหนุ่มชาวดอยที่โด่งดังนามว่า นายอภิรักษ์ โกฎธิ เป็นเจ้าของบริษัท Forex 3D ก่อตั้งโดย RMS Famelia Co. Ltd. ที่ระบุว่าเป็นบริษัทให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจเกี่ยวกับการเงินการลงทุนต่างประเทศ
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน นายอภิรักษ์ โกฎธิ คนนี้ที่ยังมีอายุเพียง 17 ได้ไปออกรายการทีวีรายการหนึ่งในฐานะคนที่ทำศัลยกรรมมาแล้ว 16 ครั้งในเวลา 2 ปี โดยหมดเงินไปกว่า 3 แสนบาท เพราะช่วงนั้นกระแสการศัลยกรรมได้รับความนิยมในหมู่คนไทย และเขาก็บอกว่า เงินจากการแปลงโฉมมาจากการรับจ้างซ่อมคอมพิวเตอร์ นี่จึงเป็นใบเบิกทางให้ชื่อของ นายอภิรักษ์ โกฎธิ เริ่มเป็นที่รู้จัก จากนั้นเขาก็เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นไปอีกจากการเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ มีชีวิตที่หรูหรา คบหากับคนดังมากมาย จนสร้างโปรไฟล์ที่ดูน่าเชื่อถือให้คนที่เห็นต่างหลงชื่นชมในความสำเร็จ โดยหารู้ไม่ว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของ Forex 3D
จุดเริ่มต้นหายนะ
จนกระทั่งช่วงปี 2559 เขาก็เปิดเว็บไซต์พร้อมแอปพลิเคชั่นชักชวนคนมาร่วมลงทุนในธุรกิจการลงทุนที่ชื่อว่า Forex 3D ซึ่งอ้างว่าจะเอาเงินลูกค้าไปลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศ พอได้กำไรก็แบ่งกัน ซึ่งรูปแบบการลงทุนของเขาจะเป็นการระดมกองทุน ทั้งนี้ทั้งนั้นจึงต้องมีเงื่อนไขการลงทุนอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์ขึ้นไปหรือประมาณ 50,000 – 60,000 บาท จากนั้นก็จะนำเงินเหล่านั้นไปเทรด Forex เมื่อได้กำไรก็จะนำมาแบ่งตามสัดส่วนที่ลงทุนกันไว้ ซึ่งทาง Forex 3D ก็การันตีผลตอบแทนทุกเดือน โดยเจ้าของเงินจะได้ 60%!
นอกจากนี้เขายังมีระบบ Partnership ด้วยการแบ่งผลตอบแทนให้กับสมาชิกที่สามารถหาสมาชิกคนอื่น ๆ มาร่วมลงทุนให้กับบริษัทด้วย นั่นจึงทำให้ในระยะเวลา 4 ปี บริษัท Forex 3D มีสมาชิกประมาณ 80,000 คน และมูลค่าจากนักลงทุนก็สูงถึง 40,000 ล้านบาท นอกจากนี้ชายหนุ่มคนนี้ยังสร้างภาพลักษณ์ด้วยการก่อตั้ง “มูลนิธิธรรมมาภิรักษ์” เป็นมูลนิธิที่ทำประโยชน์ให้แก่สังคม ตั้งแต่การบริจาคเงินให้เด็ก ไปจนถึงช่วยเหลือชาวเขา พร้อม ๆ กันนั้นชื่อเสียงของนายอภิรักษ์ ก็เริ่มโด่งดัง ทำให้ดารามากมายหลงมาลงทุน พร้อม ๆ กันนั้นก็เชิญชวนให้คนมาลงทุน แน่นอนว่าเมื่อมีดารามาอยู่ในกลุ่ม คนธรรมดาก็เริ่มหลงเชื่อ แม้ว่าตอนนั้นเราจะเตือนคนข้าง ๆ ให้ระวัง แต่มันกลายเป็นพูดหูซ้ายทะลุหูขวา เพราะภาพลักษณ์ของชายคนนี้ กับการมีดาราเข้ามาร่วมลงทุน มันก็ยิ่งทำให้น้ำหนักคำพูดในการเตือนเรื่องนี้ไร้ประโยชน์
หายนะเริ่มมาเยือน
หลังจากมีการปันผลไปให้นักลงทุนในช่วงแรก กระทั่งกลางปี 2562 เรื่องมาโป๊ะแตกเอาตรงที่เขาไม่ได้นำเงินไปลงทุน Forex จริง ๆ แต่เอาพวกเขาเอาเงินของนักลงทุนไปหมุนจนกลายเป็นแชร์ลูกโซ่ขนาดใหญ่ แต่ทว่านายอภิรักษ์ยังคงเปิดให้ลงทุนต่อไป พร้อมเอาหน้าม้ามาแปะสลิปโชว์เงินปันผล ทำทุกอย่างให้เหยื่อที่ลงทุนใจเย็นว่าได้เงินแน่ และในขณะเดียวกันเพื่อหาเหยื่อรายใหม่จะได้เอาเงินไปจ่ายให้คนเก่า มันเป็นเหมือนยอดปิรามิดแห่งการแชร์ลูกโซ่ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเขาจะจ่ายเฉพาะคนดังก่อน ส่วนตาสีตาสาแทบจะไม่ได้เงินเลย
สุดท้ายท้ายสุดสมาชิกมากมายพากันไปแจ้งความ โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 2.5 พันล้านบาท ถือว่าเป็นเงินมหาศาลที่มาจากเงินเก็บทั้งชีวิตของคนบางคน พวกเขาหมดตัว บางคนบ้านแตกเพราะเรื่องนี้ หรือแม่กับลูกต้องผิดใจกันเพราะไปหลงเชื่อ Forex 3D ก่อนที่นายอภิรักษ์จะถูกจับได้ในวันที่ 15 มกราคม 2564 คาคอนโดหรู โดยล่าสุดคนที่เกี่ยวข้องก็เริ่มถูกจับจากการกระทำของตัวเอง ที่สุดแล้วไม่ว่าจะมีข่าวการช่อโกงในรูปแบบนี้มาให้เห็นเสมอ แต่ก็ดูเหมือนว่ายังมีคนจำนวนมากที่ยังคงหลงเชื่อ หลงฝันคิดว่า นี่คือโอกาสที่จะทำให้เรารวย โดยที่ไม่ได้มองตามความเป็นจริงว่า นั่น คือหายนะ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นเหยื่อของคนกลุ่มนี้ หวังว่านี่จะเป็นบทเรียนให้คนที่หลงผิด หรือคนที่คิดจะลงทุนในรูปแบบนี้นะครับ เพราะไม่มีใครที่มักจะให้เงินคุณได้ง่าย ๆ นอกจากคุณจะใจง่ายเอาเงินไปให้เขาเอง