ทำไมอเมริกากลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจมากที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 แม้จะเป็นประเทศที่มาจากการก่อตั้งโดยกลุ่มคนที่อพยพมายังแผ่นดินนี้ก็ตาม แต่สหรัฐอเมริกาก็สามารถก้าวหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีการบุกเบิกที่ดินทำกินทางด้านการเกษตร และพัฒนาการคมนาคมและขนส่งมาโดยตลอด มีการลักลอบนำเทคโนโลยีเครื่องจักรปั่นด้ายจากอังกฤษมาติดตั้งในทศวรรษ 1850 ระบบโรงงานอุตสาหกรรมได้เกิดขึ้นโดยทั่วไปในสหรัฐ จนกลายเป็นรากฐานสำคัญที่ส่งผลมายุคปัจจุบัน ฉะนั้นเรามาดูภาพรวมด้านเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกากันครับ
จะว่าไปประเทศพวกเขาไม่ได้มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เหมือนประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะช่วงศตวรรษที่ 16 นับเป็นยุคสมัยแห่งความรุ่งเรืองของชาวยุโรปที่เริ่มออกล่าอาณานิคม ไม่ว่าจะเป็น โปรตุเกส สเปน เนเธอร์แลนด์ ตามมาด้วย อังกฤษ และฝรั่งเศส ประเทศเหล่านี้ เริ่มออกเดินทางด้วยเรือข้ามมหาสมุทรอันกว้างไกล เพื่อค้นหาทวีปใหม่ ๆ จากนั้นก็เข้ายึดครองเป็นอาณานิคมของตนเอง พร้อมกับนำทรัพยากรกลับบ้าน และหนึ่งในแผ่นดินที่พวกเขาค้นพบคือ ทวีปอเมริกา
ตอนนั้นอังกฤษยังครองข้ามยิ่งใหญ่ของโลก พวกเขาเป็นเครือจักรภพที่มีฉายาว่า เป็นประเทศที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน แต่ทว่าหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 อังกฤษ และยุโรปก็บอบช้ำไปกับสงคราม พวกเขาสูญเสียทุกด้าน ตั้งแต่ ชีวิต เศรษฐกิจไปจนถึงทรัพยากร นี่จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญให้โลกได้พลัดใบมหาอำนาจใหม่ที่เปลี่ยนจากยุโรปสู่สหรัฐอเมริกา มาจนถึงปัจจุบัน
เพราะในช่วงที่ยุโรปเผชิญกับภัยสงคราม อเมริกาก็ใช้จังหวะนี้พัฒนาประเทศ มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ ในสหรัฐอเมริกา ที่มีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สามารถผลิตสินค้าครั้งละมาก ๆ รวมถึงการเกิดขึ้นของจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ และเมื่อสิ้นสงคราม สหรัฐอเมริกา ก็ก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 แทนที่อังกฤษที่ครองตำแหน่งอยู่ก่อนหน้านั้นได้แบบเต็มตัว
ซึ่งความจริงแล้วเศรษฐกิจของสหรัฐก็มีการขยายตัวในระดับสูงมาโดยตลอด ตัวอย่าง ในปี 1860 ผลผลิตของภาคเกษตรคิดเป็นร้อยละ 25 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมแห่งชาติ (GNP) ก็เหลือเพียงร้อยละ 17
จากนั้นในปี ค.ศ. 1910 ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมก้าวล้ำหน้า พวกเขาได้กลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมอันดับหนึ่งของโลก โดยในปี 1913 สหรัฐฯ มีสัดส่วนของผลผลิตอุตสาหกรรมคิดเป็นร้อยละ 35.8 และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 42.2
พวกเขาคิดค้นพลังงานไฟฟ้า ตลอดจนการใช้พลาสติก และโลหะผสม เช่น อลูมิเนียม ในการผลิตสินค้าต่าง ๆ เป็นต้น โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของ Ford ก็ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของพวกเขาก้าวหน้า จากนั้นอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่าง Hollywood ก็ถือเป็นผลิตภัณฑ์หลักของประเทศก็ว่าได้ รวมถึงโครงการพัฒนา(ผลิต)อาวุธที่ล้ำหน้าก็เกิดในแผ่นดินนี้
พวกเขายกเลิกมาตรฐานทองคำที่ใช้เป็น Backup เงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ ก็เปลี่ยนมาเป็นเทคโนโลยี อาวุธ และบริษัทดัง ๆ ซึ่งความยิ่งใหญ่ของอเมริกานั้นยิ่งใหญ่มาก เพราะสกุลเงินดอลลาห์สหรัฐฯ ได้กลายมาเป็นเงินตราที่ใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน และเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศของประเทศต่าง ๆ ทำให้เงินดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่ประชาชนให้ความเชื่อถือแลกเปลี่ยนมากที่สุด รวมทั้งเป็นสกุลเงินตราที่มีค่าเงินค่อนข้างจะมีเสถียรภาพมากที่สุดเลยทีเดียว
โดยในปี 2020 สัดส่วนดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็น 24% ทำให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน
ซึ่งปัจจุบัน มูลค่า GDP ของอเมริกาอยู่ที่ประมาณ 624 ล้านล้านบาท แม้พวกเขาจะเลิกใช้มาตรฐานทองคำ แล้วหันไปพึ่งเทคโนโลยี อาวุธ และบริษัทต่าง ๆ ก็ทำให้เงินดอลลาห์ของอเมริกามีมูลค่าสูงขึ้น จะเห็นได้ว่า แม้อเมริกาอาจจะไม่ได้มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และยาวนานแบบอังกฤษ หรือจีน แต่ทว่าพวกเขาก็สามารถสร้างความยิ่งใหญ่ได้ในปัจจุบัน
