Tiktok vs Youtube แพลตฟอร์มไหนจ่ายเงินให้คุณดีกว่ากัน
เราอยู่ในยุคใหม่ที่การสร้างรายได้ไม่จำเป็นต้องเป็นพนักงานออฟฟิศ ข้าราชการ แต่ก็สามารถหารายได้จากการสร้างคอนเทนต์วิดีโอที่เรียกกันว่า Content Creator ผ่านสองแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดนั่นคือ Tiktok และ Youtube ว่าแต่แพลตฟอร์มไหนมีวิธีสร้างรายได้อย่างไรบ้าง
Tiktok
การสร้างรายได้จาก Tiktok มีวิธีสร้างรายได้อยู่ 5 วิธีหลัก ๆ ประกอบด้วย
1. ได้เงินจาก COINS
Tiktoker จะมีสิทธิ Live Streaming พบปะ ถามตอบกับเหล่า User โดยในการ Live หาก User ของคุณอยากสนับสนุนคุณ ก็สามารถโอน Coins ได้ ซึ่งการจะมี Coins ก็ต้องมาจากการเติมเงินเข้าสู่ระบบ และสามารถมอบให้กันเพื่อเป็นของขวัญ หากได้รับ Coins ตามจำนวนที่กำหนดก็สามารถถอนแลกออกมาเป็นเงินสดได้
2. ขายสินค้าจากการไลฟ์
พ่อค้าแม่ค้าหลายท่านผันตัวมาเป็น Tiktoker ผ่านการทำคอนเทนต์วิดีโอ หากมียอด Followers เพิ่ม คุณก็สามารถไลฟ์ขายสินค้าได้ในแพลตฟอร์มนี้
3. ฝากลิงก์ Affiliated
ต่อจากข้อสามหากคุณไม่มีสินค้าเป็นของตัวเอง คุณก็สามารถนำลิงก์ Affiliated มาแปะไว้ในกล่อง Description และอาจมีการกล่าวสั้น ๆ ถึงลิ้งที่คุณแปะไว้ เพื่อให้ User ไปกดสั่งซื้อ แล้วคุณจะได้เป็นค่าคอมมิชชั่น
4. ได้เงินจากโฆษณา
หากมีผู้ติดตามมาก และสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ดีจนได้รับความนิยม ยอดก็สามารถแปลงเป็นรายได้ได้เช่นกัน
5.รีวิวสินค้า
ต่อจากข้อ 4 หากคุณโด่งดังพอในโลกของ Tiktok ก็จะมีแบรนด์ต่าง ๆ มาจ้างคุณลงโฆษณาให้ ซึ่งค่าจ้างก็มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนขึ้นอยู่ที่คุณภาพของช่อง
Youtube
ส่วนการสร้างรายได้จาก Youtube มีวิธีสร้างรายได้อยู่ 6 วิธีหลัก ๆ ประกอบด้วย
1.Viewers
หากคอนเทนต์คุณเจ๋งมีผู้ติดตามจำนวนมาก คุณก็จะมีรายได้หลักจากยอดวิวและโฆษณาที่คุณเปิดรับในวิดีโอของคุณ ยิ่งยอดวิวเยอะรายได้ก็มากตาม โดยเฉลี่ยรายได้จะอยู่ที่ 1,500 View/ 1 Usd เมื่อครบสิ้นเดือนระบบจะหักรายได้โอนเข้าบัญชีคุณไม่เกินวันที่ 25 ของเดือน
2.Advertorial
แบรนด์ใหญ่ ๆ มักจะติดต่อมาขอพื้นที่ลงโฆษณากับคลิปของคุณในแบบ Advertorial ส่วนใหญ่จะเป็นโฆษณาแฝงตรงกลางคลิป
3.โปรโมท Affiliated
ข้อนี้จะเป็นรูปแบบการโฆษณาเดียวกันกับ Tiktok โดยคุณสามารถนำลิงก์ Affiliated มาแปะไว้ในกล่อง Description และอาจมีการกล่าวสั้น ๆ ถึงลิ้งที่คุณแปะไว้ เพื่อให้ User ไปกดสั่งซื้อ แล้วคุณจะได้เป็นค่าคอมมิชชั่น
4.Content Review
หากช้องคุณดังและมีฐานผู้ติดตามมาก แบรนด์มากมายจะส่งของมาให้คุณรีวิว หรือสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับโปรดักต์ของลูกค้า รายได้จะอยู่ที่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน
5.สมาชิก
ระบบสมาชิกจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีผู้ติดตาม 100,000 คนขึ้นไป และมี Content อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับแฟน ๆ ที่ติดตามคุณจนอยากเป็นกำลังใจในการผลิตคลิป คุณก็สามารถเปิดรับระบบสมาชิกรายเดือน และตั้งราคาค่าสมาชิกได้ โดยสามารถตั้งราคาได้ตั้งแต่ 35 บาท ไปจนถึงหลักพัน แต่คุณก็ต้องมีของสัมนาคุณที่ดีกับสมาชิกเช่นกัน
6.Live Streaming
สุดท้ายก็คือการทำ Live พบปะผู้ติดตาม และสามารถให้ผู้ติดตาม Donate เงินมาให้คุณได้ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำช่องและสร้างสรรค์ผลงานต่อไป
สรุป แพลตฟอร์มไหนดีกว่ากัน นั้นอาจจะตอบยาก เพราะทั้ง Tiktok และ Youyube ก็มีเอกลักษณ์ในแบบตัวเอง อย่างเช่น Tiktok จะเป็นคลิปสั้น ๆ ส่วน Youtube จะเป็นคลิปยาว แต่จากประสบการณ์ในการทำช่องที่มีผู้ติดตามเกิน 1 แสน ต้องบอกว่า Youtube จะดีกว่าและมีรายได้สม่ำเสมอมากกว่า แต่ทั้งหมดนี้เป็นแค่แนวทาง ขึ้นอยู่ที่คุณผู้อ่านจะเลือกแบบไหนนั่นเองครับ