ตำนานนักลงทุนสาย VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

หากให้นึกถึงนักลงทุนไทยที่เป็นที่เคารพและได้รับการซูฮกในประเทศไทย ชื่อของดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร คือ ชื่อแรก ๆ ที่เราทุกคนนึกถึง เพราะท่านถือเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นผู้เผยแพร่แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่าคนแรกในประเทศไทย จากการเขียนหนังสือ “ตีแตก” เพื่อให้นักลงทุนเลิกเก็งกำไรอย่างไร้หลักการแล้วหันมาลงทุนแบบเน้นคุณค่า และปลอดภัยมากขึ้น

โดยชื่อของ ดร.นิเวศน์เริ่มโด่งดังเป็นวงกว้างมาจากช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะตอนนั้นนักลงทุนและเหล่าธุรกิจมากมายต่างล้มละลายกับวิกฤตครั้งนั้นเว้นแต่ดร. นิเวศน์ ที่มองเห็นโอกาสในวิกฤตจากการลงทุน ด้วยการนำเงินสิบล้านเข้าไปซื้อหุ้นที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้วว่ามี value มีความปลอดภัย ให้ผลตอบแทนสูง คุ้มค่าในการลงทุน ทั้ง ๆ ที่คนอื่น ๆ มองว่าตลาดหุ้นไทยตอนนั้นไม่มีความปลอดภัย แต่ดร.นิเวศน์เชื่อว่า ในวิกฤตนั้นยังคงมีหุ้นที่อยู่รอดปลอดภัย และต้องดีขึ้นในอนาคต มีกำไร และจ่ายเงินปันผลดีขึ้นอย่างแน่นอน รวมถึงกรอบการเติบโตในระดับมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ จนในที่สุดดร.นิเวศน์ก็พบ และเข้าซื้อสุดท้ายหุ้นเหล่านั้นก็เติบโตเป็นพันล้านในปัจจุบัน แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่ว่าเส้นทางการลงทุนจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ

ท่านเล่าผ่านรายการ Black swan ของลงทุนแมนไว้ว่า ตอนเด็กที่บ้านลำบากจนไม่มั่นใจว่าจะมีเงินกินข้าวหรือไม่ แต่ทว่าผู้เป็นแม่ก็หามาให้ลูกได้เสมอ แม่ของท่านทำงานก่อสร้างด้วยรายได้รายวันที่ไม่แน่ชัด จึงผลักดันให้ดร.นิเวศน์เป็นคนขยัน มัธยัสถ์ อดทนเก็บเงินมาเรื่อย ๆ จากอยู่บ้านหลังเล็ก ๆ ก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แล้วไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ต่างประเทศ กลับมาก็เริ่มต้นทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านวานิชธนกิจ ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ นวธนกิจ จำกัด (มหาชน) ในยุคที่ธุรกิจหลักทรัพย์เฟื่องฟูในปี พ.ศ. 2534

ดร.นิเวศน์บอกว่า มีคนหลายท่านมาถามว่า อายุเท่าไรควรมีเงินเก็บ บางคนมาปรึกษาท่านแล้วถามว่าอายุ 30 ยังไม่มีเงิน ดร.นิเวศน์บอกว่า ท่านเองก็ไม่มี ท่านเริ่มมาเก็บหลังอายุ 30 เพราะเงินที่หามาได้จะเอาไปลงกับความรู้ แม้แต่สินสอดจะแต่งงานยังไม่มี ดร.นิเวศน์บอกว่า ไม่มีอะไรช้าหรือสายไป การลงทุนเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเราอายุน้อย ๆ การลงทุนกับความรู้สำคัญสุด เพราะวันหนึ่งความรู้ที่คุณลงทุนไปจะสุกงอม และวันนั้น ๆ ก็เกิดขึ้นตอนอายุ 40 ที่เริ่มกลายเป็นนักลงทุนสาย VI ดร.นิเวศน์ บอกว่าในวิกฤตมีโอกาสเสมอ และวิกฤตที่จะเปลี่ยนชีวิตท่านก็คือ วิกฤตต้มยำกุ้ง ที่พลิกชีวิตลงทุนมานับแต่นั้น

จากข้อมูลของเว็บไซต์ ตลาดหลักทรัพย์ ได้ให้ข้อมูลการลงทุนของดร.นิเวศน์ ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งดังนั้น

“ในปี พ.ศ. 2540 ดร.นิเวศน์เริ่มต้นพอร์ตตั้งต้นด้วยเงิน 10 ล้านบาทและให้ผลตอบแทนสูงเกือบ 13% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปีนั้นตกลงมามากกว่า 50% ดร.นิเวศน์อธิบายว่าในปี พ.ศ. 2540 นั้น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตกลงไปอยู่ที่ 200 จุด แต่หุ้นที่เลือกตามหลัก VI ไม่ตกเลย ปรับขึ้นตลอด และเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวก็ยิ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้พอร์ตลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามหลัก VI และยิ่งเศรษฐกิจฟื้นตัวก็ยิ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก นี่จึงทำให้พอร์ตลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมีมูลค่าสูงในปัจจุบัน”

————-

Source