ไม่มีกลยุทธ์ใดสำคัญกว่าเรื่องปัจจัยพื้นฐานในการลงทุน
ปัจจัยพื้นฐานในการลงทุน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กจนเทรดเดอร์อาจมองข้าม แต่สำหรับนักลงุทนที่ประสบความสำเร็จหลายคน ๆ มักให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะการเข้าใจปัจจัยพื้นฐานอย่างลึกซึ้ง จะช่วยให้เรารู้จังหวะของราคาจะวิ่งไปทางไหน เหมือนอย่างในหนังสือศาสตร์แห่งบัฟเฟฟต์ของ คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ให้ความสำคัญเรื่องปัจจัยพื้นฐาน เขาเริ่มต้นจากศูนย์ แต่ก็แม่นในการเลือกสรรลงทุนอย่างชาญฉลาด และระมัดระวัง ผลที่ได้กลับมา คือ ความมั่งคั่งร่ํารวยมหาศาล ฉะนั้นบทที่ 1 เราจะมาพูดถึงการทำความเข้าใจเพื่อการในไปใช้ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายกัน
ก่อนจะศึกษาให้ถามตัวเองก่อน เราจะเอาไปใช้ทำอะไร เพื่อจุดประสงค์อะไร มิเช่นนั้นเราจะเหนื่อยกับสิ่งที่เราเจอมาก เพราะข้อมูลที่จะถาโถมเข้ามาหาเรานั้นมีมากมาย การที่เราเจาะประเด็นหรือตั่งคำถามเสียก่อนว่าเราต้องการนำข้อมูลปัจจัยพื้นฐานไปทำอะไรจะทำเราหาข้อมูลและนำข้อมูลต่างๆมาศึกษาเปรียบเทียบกันง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงนี้เราจะเห็นว่าประเด็นเรื่องหนี้เสียต่างๆ เป็นกระแสที่คนในตลาดต่างตื่นกลัว ดังนั้นสิ่งที่เราควรตั้งคำถามในการหาข้อมูลเพื่อนำมาประเมินปัจจัยพื้นฐานก็คือเรื่อง ข้อมูลหนี้สินต่างนั่นเอง จากตัวอย่างเราเอากระแสที่ตลาดให้ความสนใจมาเป็นปัจจัยชี้นำในการหาข้อมูลต่าง ๆ นั่นเอง
ปัจจัยพื้นฐานต่างๆที่นิยมใช้กันมักจะเป็นอะไร
- ตัวเลขผลประกอบการณ์ , ตัวเลขเศรษฐกิจ
- งานที่จะรับรู้รายได้ในอนาคต , โครงการการลงทุนต่าง
- ความแข็งแกร่งของบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด
- นโยบายของภาครัฐ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
จากการยกตัวอย่างการนำประเด็นที่ตลาดสนใจ และ ปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ที่นิยมใช้กัน นั้นถ้าเรานำสองอย่างนี้มาประกอบเข้าด้วยกันก็จะได้สิ่งที่เรียกว่า การมองเศรษฐกิจภาพรวม หรือจะเรียกว่า Macroeconomics นั่นเอง โดยปกติเราจะวิเคราะห์พื้นฐานเศรษฐกิจจากภาพใหญ่เสียก่อน แล้วจึงมองหาประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ที่อาจจะสร้างผลกระทบให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับปัจจัยพื้นฐานของสิ่งเราให้ความสนใจ หรือทำการลงทุนอยู่หรือไม่ ซึ่งสามารถทำได้ ทั้งการป้องกันความเสี่ยง หรือ จะเป็นโอกาสการเก็งกำไรได้อีกด้วย