ข่าวการลงทุนในตลาดสากลรายสัปดาห์ที่ 15 – 19 สิงหาคม 2565
ภาพรวมตลาดอยู่ในภาวะกดกดดัน ไม่มีสัญญาณบวก แต่ในทางกลับกันหลัง จากในกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาออกมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงของแน้วโน้มในตลาด โดยออกมาลดลง ตอบรับกับการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามที่เยเลนและพาวเวลได้ให้ความเห็นไว้ก่อนหน้าว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้หลังการปรับอัตราดอกเบี้ยของอเมริกา ราคาของพันธบัตรสหรัญอเมริกานั่นได้รับแรงกดดันจากแรงขายไม่มากนัก แล้วก็มีแรงซึ้อปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงนี้ยังเป็นช่วงประกาศผลประกอบการของสหรัฐอเมริกา โดยผลประกอบการส่วนใหญ่ออกมาอยู่ในแนวโน้มที่ดี ทำให้ตลาดหุ้นทยอยมีแรงซื้อมาอย่างต่อเนื่อง โดยจากประเด็นที่ตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลดลงนี้แรงที่ช่วยผลักดันให้ดัชนีตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้น
ตลาดการลงทุนตอนนี้ต้องการสัญญาณบวกของตัวเลขเศรษฐกิจ ถ้าตัวเลขเงินเฟ้อของแต่ละประเทศทยอยลดลงหลังจากการปรับอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลให้เป็นสัญญาณบวกระยะสัั้นกับตลาด โดยเฉพาะ risk asset ซึ่งจะได้รับผลบวกจากประเด็นนี้ อีกทั้งตอนนี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงมายังระดับก่อนหน้าที่จะเกิดสงคราม ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ถือเป็นเรื่องดี ที่จะทำให้ความกังวลของตลาดกับภาวะถดถอยผ่อนคลายลงได้
ในช่วงปลายปี ตัวเลข retail sale มักจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจาก เทศกาลต่างๆที่จะมีแรงซื้อของ จึงอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลังจากนี้ที่น่าจับตามองตัวเลขนี้ ถ้าตัวเลขยังคนแข็งแกร่ง อาจทำให้เฟดกล้าพอที่จะปรับอัตราดอกเบี้ย ไปอย่างต่อเนื่องได้
ประเด็น เศรษฐกิจ ช่วงนี้ประเทศที่มีเงินคงคลังน้อย ก็จะประสบปัญหา ซึ่งอาจเป็นภาวะหนี้ที่ยังคงรอการระเบิดสำหรับประเทศที่ไม่ได้มีเงินทุนสำรองมากเพียงพอ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามหนี้ครัวเรือนก็เป็นอีกหนี่งปัจจัยที่น่ากลัวเพราะเป็นระเบิดนิวเคลียที่จะทำให้ประเทศล้มได้ ถ้าประชาชนต่างตกใจจนแห่ไปถอนเงินจนทำให้เกิด bank run ( ธนาคารไม่มีเงินเหลือเพียงพอ )
ส่วนประเด็นทางการเมืองของ จีนและไต้หวัน แม้ว่าจะดูเงียบลง แต่ตอนนี้จีนก็ได้มีการทยอยถอดหุ้นของจีนที่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาออกนอกตลาด ถือเป็นการตอบโต้เงียบ และป้องกันการแซงชันจากทางอเมริกาไปในตัว ทั่วโลกตอนนี้มีประเด็นทางการเมืองทั้งในยุโรป ( รัสเซีย-ยูเครน ) และเอเชีย ( จีน-ไต้หวัน ) ที่ทยอยมีประเด็นออกมาอย่างต่อเนื่อง
คริปโตตอนนี้ได้รับแรงกดดันหลายด้านจนความน่าเชื่อถือลดลง ซึ่งประเด็นสำคัญที่ไม่ควรลืมคือตอนนี้หลายๆประเทศกำลังทดสอบและพัฒนาเหรียญดิจิดัลของตัวเองออกมา ( CBDC ) ถ้ามีการนำมาใช้ได้จริงจะสร้างแรงสั่นสะเทือนในอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินของหลายประเทศ ซึ่งแน่นอนจะส่งผลกระทบกับคริปโตอีกด้วย
สัปดาห์นี้ หลายประเทศมีประกาศตัวเลข Retail sale ออกมาซึ่งจะส่งผลกับความเชื่อมั่นของแต่ละประเทศในหลังจากมีการทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ว่าจะส่งผลกับกำลังซ์้อภาคประชาชนมากน้อยเพียงใด ถ้าRetail sale ออกมาดีตลาดก็จะกล้าที่จะเสี่ยงมากขึ้น แต่ไม่ว่ายังไง ตอนนี้ราคาทองกับสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ได้เข้าสู่ถาวะ (Risk on) โดยทั้งทองและสินทรัพย์เสียงต่างปรับตัวขึ้นพร้อมกัน สินค้าโคกภัณท์จะเป็นที่สนใจมากขึ้น แนวโน้มตลาดเรื่มกลับมาดี ประกอบกับต้องมีการสตอกสินค้าไว้เผื่อฤดูหนาวซึ่งมีโอกาศที่ราคาสินค้าจะปรับตัวขี้นได้อีกด้วย